ติดต่อเรา เพื่อเช่ารถตู้อุบล
ติดต่อเรา นายประวิทย์ ชะนีวงค์ กรรมการและผู้จัดการ ร้านอุบลประวิทย์ บริการรถตู้ให้เช่า ในจังหวัดอุบลราชธานี โทร 085 – 0138576 เป็นผู้ให้บริการ เกี่ยวกับเช่ารถตู้อุบล ในจังหวัดอุบลราชธานี รถตู้อุบลของประวิทย์รถตู้ สามารถเดินทางได้ ทั่วไทย เดินทางไปทุกที่ ตามที่ทางลูกค้าระบุมา งานประชุม สัมมนา ดูงาน การท่องเที่ยว แบบกลุ่ม แบบครอบครับ รถตู้ทุกคันใหม่ ภายในตกแต่ง แบบสวยงาม ในรถมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก มากมาย เช่น Free wifi ที่ชาร์ทแบตทุกที่นั่ง คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นเพลงแบบ Android Ver 10 จอใหญ่มาตรฐาน ลูกค้ายังสามารถ กดเลือกฟังเพลงจาก http https://www.youtube.com/Youtube ได้ทุกเพลงที่ต้องการ มีไมค์ 2 ตัวภายในรถ ร้องเพลงได้อย่างไพเราะ ติดต่อเรา เพื่อสอบถามการบริการ ได้ที่ เบอร์ 085 – 0138576 คุณประวิทย์ พร้อมให้บริการท่านตลอด 24 ชั่วโมง หรือ gmail.prawit193group@gmail.com
ติดต่อเรา เพื่อเช่ารถตู้อุบล
ติดต่อเรา นอกจากนี้ รถตู้อุบล ของประวิทย์รถตู้ ยังมีกลุ่มรถตู้ ในจังหวัดอุบลราชธานี ที่พร้อมจะให้บริการการ ให้เช่ารถตู้อุบลราชธานี มีรถตู้ไว้รองรับการให้บริการมากกว่า 50 คัน รถตู้คันมีมาตรฐาน ด้านความปลอดภัยที่สูง มีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง มีพนักงานขับรถตู้ ที่มากด้วยประสบการณ์การขับรถที่มากกว่า 10 ปี ทุกคน รถตู้คันภายใน ตกแต่งภายในแบบสวยงาม ผลงานของทีม รถตู้อุบลประวิทย์รถตู้ ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสได้รับใช้สังคมงาน ที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ ภาคเอกชน โรงเรียน กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว มากมาย ตลอดทั้งทีมงาน ดารา ช่อง TV ต่าง มากมายครับ ติดต่อเราเพื่อสอบถามข้อมูลการเดินทางได้ครับ
กลุ่มรถตู้ในจังหวัดอุบล ที่พร้อมให้บริการ
- อุบลทีที โทร 083-7448440 https://www.ubon-tt.com/
- อุบล Super Van โทร 089-0162286 http://www.ubonprawitvan.com/
- อุบลประวิทย์กรุ๊ป โทร 085-0138576 http://www.ubonprawit1.com/
- อุบลซาริโอ ม่วงสามสิบ โทร http://ubonamazingvan.com/index.html
เงื่อนไขการให้บริการ
- ค่าบริการวันละ 1,800 บาท
- ไม่รวม ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง
- ระยะเวลา การทำงาน 06.00 – 20.00 น. ถ้าเกินเวลา ที่กำหนดคิดค่าโอที ชั่วโมงละ 200 บาท
- ในกรณีเดินทาง ไปต่างจังหวัด ทางผู้ว่าจ้างจะต้องจัดหา ที่พักให้กับทางพนักงาน ขับรถด้วย เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
- หากไม่สามารถ จัดหาที่พัก ให้กับทางพนักงานขับรถตู้ให้ ก็ให้ทางพนักงานขับรถหาที่พักเอง ก็ได้ โดยทางผู้ว่าจ้าง เป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้กับพนักงาน ขับรถตู้
- ห้ามนำสิ่งเสพติด ทุกชนิดขึ้นภายในรถตู้ โดยเด็ดขาด และห้ามเล่นการพนัน และห้ามดื่มสุรา ในรถตู้ หากมีข้อสงสัยเหล่านี้ ทางพนักงานขับรถสามารถ ให้ทางตำรวจตรวจสอบ ได้ทันที
- หากต้องการ ติดต่อการเช่ารถตู้อุบลโทร 085 – 0138576 โดยมีการจ่ายค่ามัดจำในการจองรถ 500 บาท / คัน
ขั้นตอนการติดต่อเรา เพื่อจองรถตู้
- ติดต่อเรา เพื่อสอบถามราคา ค่าบริการ ทางโทIศัพท์ หรือ ทาง LINE
- ลูกค้าส่งโปรแกรมให้ผู้ว่าจ้างดู เพื่อประเมินราคาค่ารถตู้ และค่าน้ำมัน หรือค่าใช้จ่าย อื่น ๆ
- ลูกค้าจ่ายเงินค่ามัดจำ 20 % ของราคาค่าเช่ารถตู้
- โทร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 085-0138576
- โอนเงินค่าบริการรถตู้ได้ที่
- ธนาคารกรุงไทย
- เลขที่ 321 – 1-56401-2
- ชื่อนายประวิทย์ ชะนีวงค์
แนะนำสถานที่ ท่องเที่ยวสุดฮิตของบึงกาฬ
เหนือสุดแดนสยาม คือ เชียงราย ใต้สุด คือ นราธิวาส สุดปลายอีสาน คือจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย บึงกาฬ จังหวัดเล็กๆ ที่หลายคนอาจยังมาเที่ยวไม่ถึงแบบเจาะลึก แต่ก่อนเหตุผลที่มาบึงกาฬ เพราะอยากมาเที่ยว ภูทอก สถานที่สุด unseen ขึ้นชื่ออันดับต้น แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้มีแค่ภูทอก แต่ยังมีถ้ำนาคาที่กำลังฮอตสุดๆ ในตอนนี้ กลายเป็น บึงกาฬ โฉมใหม่ ที่ไม่ได้มีดีแค่ภูทอก แต่ยังมีสถานที่สวยแปลกเกิดขึ้นอีกหลายแห่ง แต่ละแห่งต้องบอกว่าสวยงามแปลกตาคุ้มค่ากับการนั่งรถมาไกล กับ 9 ที่เที่ยวเด่นบึงกาฬ มาถึงแล้วต้องไป
ภูทอก
ภูทอก เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาศรีวิหาร (วัดภูทอก) อยู่ในอาณาเขตบ้านคำแคน ตำบลนาสะแบง จ.บึงกาฬ โดยมีพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ เป็นผู้ก่อตั้ง ในภาษาอีสานแปลว่า ภูเขาที่โดดเดี่ยว ภูทอก มี 2 ลูก คือภูทอกใหญ่และภูทอกน้อยส่วนที่นักแสวงบุญและ นักท่องเที่ยวทั่วไป สามารถชมได้คือ ภูทอกน้อย ส่วนภูทอกใหญ่อยู่ห่างออกไป ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวชม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการ เดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูทอก จุดเด่นของภูทอกก็คือ สะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบ ๆ ภูทอก ใช้เพียงแรงงานคนสร้างบันได เวียนไปมา รอบภูทอกแบบ 360 ซึ่งมีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 5 ปีเต็มจากชั้น 1-7 จะมีบันไดไม้ให้เดินแบบ ตรงทอดยาวจนถึงจุดสูงสุดของยอดภูทอก และตั้งแต่ชั้นที่ 3 เป็นต้นไปนักท่องเที่ยวสามารถเดินชม แบบสะพานเวียนรอบเขาซึ่งจะ ได้เห็น มุมมองที่แตกต่างไปเรื่อย ๆ บันไดที่ทอดขึ้นสู่ยอดภูทอกนี้เปรียบเสมือนเส้นทางธรรมที่น้อมนำ สัตบุรุษ ให้พ้นโลกแห่งโลกียะ สู่โลกแห่ง โลกุตระหรือโลกแห่ง การหลุดพ้นด้วย ความเพียรพยายามและมุ่งมั่น ภูทอก ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยว ขึ้นในวันที่ 10 -16 เมษายน ของทุกปี
ชั้นที่ 1-2 เป็นบันไดสู่ ชั้นที่ 3 ซึ่งเริ่มเป็นสะพานเวียนรอบเขา สภาพเป็นป่าเขามืดครึ้ม มีโขดหินลานหิน สุดทางชั้นที่ 3 มีทางแยก สองทาง ทางซ้ายมือ เป็นทางลัดไปสู่ชั้นที่ 5 ได้เลย ซึ่งเป็นทางชันมาก ผ่านซอกหินที่มีลักษณะเหมือนอุโมงค์ ทางขวามือ เป็นทางขึ้นสู่ชั้นที่ 4
ชั้นที่ 4 เป็นสะพานลอยไต่เวียนรอบเขา มองไปเบื้องล่างจะเห็นเนินเขาเตี้ยๆ สลับกัน เรียกว่า “ดงชมพู” ทิศตะวันออกจดกับภูลังกา เขตอำเภอเซกา ซึ่งมีสภาพเป็นป่าดิบ มีแม่น้ำลำธารหลายสายไหลผ่าน มีสัตว์ป่ามากมายอาศัยอยู่ โดยเฉพาะมีฝูงกา มาอาศัย อยู่มาก จึงเรียกกันว่า “ภูรังกา” แล้วเพี้ยนมาเป็น “ภูลังกา” ในที่สุด ส่วนบนชั้นที่ 4 นี้ จะเป็นที่พักของแม่ชีรอบชั้นมีระยะทาง ประมาณ 400 เมตร มีที่พักผ่อนระหว่างทางเป็นระยะ ๆ
ชั้นที่ 5 หรือชั้นกลาง ถือว่าเป็นชั้นที่สำคัญที่สุด จะมีศาลาขนาดใหญ่ พระพุทธรูป กุฏิพระ และเป็นที่เก็บสังขารของพระอาจารย์ จวนด้วย พื้นที่สะอาดกว้างขวาง ดูแล้วร่มเย็นมาก เหมาะสำหรับการนั่งสวดมนต์ปฏิบัติธรรมสำหรับนักแสวงบุญหรือผู้ที่ใฝ่หาความ สงบ ตลอดตามช่องทางเดินจะมีถ้ำอยู่หลายจุด เช่น ถ้ำเหล็กไหล ถ้ำแก้ว ถ้ำฤาษี ฯลฯ มีที่ให้นั่งพักสำหรับความอ่อนล้า ระหว่างทาง เดิน เป็นระยะ ถ้าเดินมาทางด้านเหนือจะเห็นสะพานหินธรรมชาติทอดสู่พุทธวิหารอันเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีลักษณะแปลก และน่าอัศจรรย์ที่สุดคล้าย ๆ กับพระธาตุอินทร์แขวนที่พม่า คือ เป็นหินแยกตัวออกมาจากหินก้อนใหญ่ แต่ไม่ตกลงมา เพราะตั้งอยู่อย่าง ได้ฉากกับพื้นโลกพอดี ปัจจุบันมีสะพานไม้เชื่อมต่อระหว่างสะพานหินกับพุทธวิหาร มองออกไปจะเห็นแนวของภูทอกใหญ่อย่าง ชัดเจน และมีบันไดเวียนขึ้นสู่ชั้นที่ 6 ซึ่งเป็นชั้นสุดท้ายของบันไดเวียนรอบเขา
ชั้นที่ 6 จะเป็นจุดชมวิวิที่สวยที่สุด ตลอดทางเดินจะเป็นหน้าผายื่นออกมาทำให้ในบางครั้งเวลาเดินต้องเบี่ยงตัวออกมาเล็กน้อย โดยแต่ละจุดก็จะมีชื่อของหน้าผาที่แตกต่างกัน เช่น ผาเทพนิมิตร ผาหัวช้าง ผาเทพสถิต เป็นต้น ในช่วงฤดูหนาวจะ มีทะเลหมอก ลอยอยู่รอบ ๆ ยอดเขา ทำให้เหมือนอยู่บนสวรรค์ จากชั้นที่ 6 สู่ชั้นที่ 7 เป็นสะพานไม้เวียนรอบเขายาว 400 เมตร เกาะติดอยู่ริม หน้าผา สูงชันดูน่าหวาดเสียวอันตราย มีความยาว 400 เมตร สำหรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์และน่าชมที่สุดของชั้นนี้คือ ปากทางเข้าเมืองพญานาค ซึ่งอยู่หลังพระปางนาคปรก มีจุดให้สังเกตคือ มีรอยสีขาวขูดติดกับหินปูน ซึ่งชาวบ้านถือว่าเป็นรอยถลอกที่เกิดจากท้องพญานาค สัมผัส กับหิน และมีบ่อน้ำเล็ก ๆ มีน้ำขังอยู่เกือบตลอดปี
ชั้นที่ 7 จะมีบันไดไม้พาดขึ้นมา เมื่อเดินขึ้นบันไดผ่านมาแล้วจะเจอทางแยก 2 ทางเพื่อขึ้นไปบนดาดฟ้าชั้น 7 ทางแรกเป็นทางชัน ต้องเกาะ เกี่ยวกิ่งไม้และรากไม้เดินลำบาก แถมยังมีป้ายบอกให้ “ระวังงู” ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีอยู่มากบนยอดภูแห่งนี้ด้วย ควรใช้อีกทาง หนึ่งซึ่งเป็น ทางอ้อมต้อง เดินเวียนไปทางขวามือ แต่ก็จะมาบรรจบกันด้านบนชั้น 7 หรือดาดฟ้า ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าไม่ทึบธรรมดา มีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่บันไดทางขึ้นชั้นที่ 2 ยังไม่ชันมาก ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.paiduaykan.com https://www.paiduaykan.com/